วันพฤหัสบดีที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2560

สวนสัตว์เปิดเขาค้อ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ



สวนสัตว์เปิดเขาค้อ เป็นสถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ (โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ดำเนินโครงการโดยกองอนุรักษ์สัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ เพื่อให้เป็นไปตามพระราชดำริเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฏบนพื้นที่เขาค้อ และจากนั้นส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าได้จัดตั้งศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์ สัตว์ป่าเขาค้อและจัดทำโครงการสวนสัตว์เปิดเขาค้อ ครอบคลุมพื้นที่ 20 ตารางกิโลเมตร ในตำบลเขาค้อ ตำบลสะเดาะพง และตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ
มีสัตว์ป่าเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์หลายชนิด เช่น กระทิง กวาง ละมั่ง กระจง หมู่ป่า ลิง เม่น นกนานาชนิด และ จามรี ที่เพิ่งจะได้รับมาจากประเทศจีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นสภาพป่าตาม ธรรมชาติ เส้นทางเข้า-ออก เชื่อมติดต่อกับสถานีทดลองเกษตรที่สูงเขาค้อ
สัตว์ป่าที่เพาะเลี้ยงและขยายพันธ์ภายในสถานีแบ่งออกเป็น 3 จำพวก ได้แก่ สัตว์ป่าจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ป่าจำพวกสัตว์ปีก สัตว์ป่าจำพวกเลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก
สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อเพชรบูรณ์มีบ้านพักไว้สำหรับนักท่องเที่ยวจำนวน 3 หลัง พักได้หลังละ 10 คน หากผู้ที่เข้าชมเป็นหมู่คณะต้องการเจ้าหน้าที่บรรยายและนำชมให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่า ต้องทำหนังสือล่วงหน้าถึงหัวหน้าสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สวนสัตว์เปิดเขาค้อผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สวนสัตว์เปิดเขาค้อ

วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2560

สวนสตอเบอรี่ @เขาค้อ

เที่ยวไร่สตรอว์เบอร์รี่  ๑เขาค้อ 



ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ สวนสตอเบอรี่ เขาค้อ 


 ไปเก็บสตรอเบอรี่สดๆ จากไร่ที่เขาค้อกันไร่จีบี เป็นไร่ใหม่ อยู่ในหมู่บ้านเพชรดำทางเดียวกันกับไร่กองเซ้ง ตั้งอยู่บริวณทางเข้าไร่กองเซ้ง เรียกว่ามาดักลูกค้ากันเลย ที่นี่ไร่ไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่มีวิวสวยเด่นมากๆ เพราะตั้งอยู่บนยอดเนิน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้เล่นอีกเพียบ เช่นการโล้ชิงช้าม้ง การขับรถฟอร์มูล่าม้ง เรียกว่า สนุกด้วย อิ่มอร่อยไปด้วยพร้อมกัน



สตรอเบอรี่สดจากไร่ เข้าไปเก็บมาชั่งกิโล เอาไปรับประทานกันได้ทันที หวาน หอม กรอบ อร่อย ยังอินเทรนด์กันอยู่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศยังหนาวสตรอเบอรี่ออกผลกันมากมาย
ไปเก็บสตรอเบอรี่สดๆ จากไร่ที่เขาค้อกัน
สตรอเบอรี่สดจากไร่ เข้าไปเก็บมาชั่งกิโล เอาไปรับประทานกันได้ทันที หวาน หอม กรอบ อร่อย ยังอินเทรนด์กันอยู่ถึงเดือนกุมภาพันธ์ อากาศยังหนาวสตรอเบอรี่ออกผลกันมากมาย



ประมาณกลางเดือนพฤศจิกายน ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มรส หอมหวานสดใหม่ของสตรอเบอรี่หลากหลายสายพันธุ์กันสดๆ จากไร่สตรอเบอรี่บนเขาค้อที่มีจำนวนหลายสิบไร่ ยิ่งอากาศหนาวเท่าไหร่ ก็จะได้เห็นสตรอเบอรี่สีแดงสด สีชมพูอมขาว ลูกใหญ่เปล่งปลั่ง ห้อยระย้าอยู่ริมร่องคันดิน เชิญชวนให้เข้าไปเด็ดชิมกันได้ง่ายๆความสุขของการชมไร่สตรอเบอรี่ ไม่ได้อยู่แค่เพียงการเข้าไปซื้อสตรอเบอรี่สดๆ กันเท่านั้น แต่มันอยู่ที่การเข้าไปเลือกสรรสตรอเบอรี่แต่ละผล แต่ละลูก ที่ต้องตาต้องใจเรา จนอาจเผลอลืมเก็บใส่มาเต็มตะกร้าใหญ่ ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักกันที อาจได้เป็นกิโลๆสตรอเบอรี่ จากไร่ ที่เก็บกันสดๆ มักมีราคาขาย แตกต่างกันไปตามความต้องการของตลาดในแต่ละช่วง โดยเฉลี่ยแล้วอยู่ในระหว่างกิโลกรัมละ 300-600 บาท (ก่อนเข้าไปเก็บก็ถามเจ้าของกันก่อนนะ) ราคานี้ถือว่าปกติ ไม่แพง เพราะเป็นราคาที่บวกรวมกับการเข้าไปเดินย่ำในแปลง ซึงอาจมีความเสียหายเกิดขึ้นบ้าง อาจมีการแอบเก็บทานในแปลงบ้าง หรืออาจมีการเก็บลูกที่ยังไม่แก่เต็มที่ใส่ลงตะกร้า แต่แอบคัดออกบ้าง (ซึ่งไม่ควรทำนะจ้ะ)
สำหรับไร่สตรอเบอรี่บนเขาค้อ หากันได้ง่ายมาก เพราะส่วนใหญ่ตั้งอยู่ริมเส้นทางสำหรับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยเฉพาะถนนสายเขาค้อ-แคมป์สน (2196) มีไร่สตรอเบอรี่ตั้งอยู่ริมเส้นทางมากมายหลายสิบไร่ เห็นไร่ไหนสวยๆ หรือมีลูกย้อยล่อตาล่อใจ ก็แวะเข้าไปเก็บกันได้เลย ไม่เสียเวลามากนักส่วนไร่ขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่เยอะหน่อย ก็อาจต้องเดินทางลึกเข้าไปจากเส้นทางหลักกันหน่อย ที่ "เว็บเขาค้อ.คอม" แนะนำ มีอยู่ 3 ไร่ ซึ่งอยู่ในบริเวณหมู่บ้านชาวเขาทั้งหมด  ที่แนะนำเพราะว่าแต่ละแห่งมีพื้นที่ปลูกค่อนข้างมาก ผลสตรอเบอรี่หวานสด ปลอดสารพิษ และที่สำคัญวิวสวยสุดๆ คือไร่ธัญเบอรี่ , ไร่กองเซ้ง , และไร่ จีบีไร่ธัญเบอรี่ อยู่ในหมู่บ้านเล่าลือ ทางเข้าอยู่เยื้องๆ กับ อบต. เขาค้อ สามารถขับรถเข้าไปตามทางในหมู่บ้านประมาณแค่ 2 กม. ก็เจอแล้ว มีพื้นที่กว้างขวาง ปลูกสตรอเบอรี่เป็นแนวขวางไล่ลาดลงไปตามเนินเขา ได้ออกกำลังกายระหว่างตามหาผลสตรอเบอรี่กันด้วยไร่กองเซ้ง เป็นไร่สตรอเบอรี่เจ้าแรกของเขาค้อ อยู่ในหมู่บ้านเพชรดำ มีป้ายทางเข้าหมู่บ้านอยู่บริเวณต.ทุ่งสมอ จากถนนหลักขับรถเข้าไปประมาณ 10 กม. เป็นไร่ใหญ่ในทุ่งโล่งบนยอดเนินเขา ที่มองเห็นวิวกว้างไกลไปถึงผาซ่อนแก้ว สตรอเบอรี่อร่อย สด หวานกรอบมากๆ

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อนุสรณ์เขาค้อ

เขาค้อ เคยได้ชื่อว่าเป็นดินแห่งคอมมิวนิสต์ เป็นพื้นที่สีแดงที่คุกรุ่นไปด้วยควันไฟของการสู้รบจากผู้ที่มีแนวคิดทางการ เมืองที่แตกต่างกัน (ช่วง พ.ศ. 2511-2525 ) ในยุคที่เขาค้อถือเป็นดินแดนต้องห้ามที่คนทั่วไปไม่ควรเฉียดเข้าไปใกล้แม้ แต่น้อย เพราะถือว่าอันตรายสุดๆ
แต่เมื่อเวลาผันผ่านไป ความขัดแย้งยุติลง เขาค้อปรับเปลี่ยนกลายเป็นนพื้นที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่น และสวยงามมีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของเพชรบูรณ์
อนุสรณ์ สถานผู้เสียสละเขาค้อ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา โดดเด่นด้วยแท่งหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยม ออกแบบโดย
ดร.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา มีความหมายตามขนาดและรูปร่างดังนี้

-รูปทรางสามเหลี่ยม หมายถึงการปฏิบัติการร่วมกันระหว่าง พลเรือน ตำรวจ และทหาร
- ฐานอนุสรณ์สถานกว้าง 11 เมตร หมายถึง พ.ศ.2511 อันเป็นปีเริ่มการปฏิบัติการรุนแรงของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ในพื้นที่นี้
- ความสูงจากแท่นบูชาถึงยอดอนุสรณ์สถาน 24 เมตร หมายถึงพ.ศ. 2524 อันเป็นปีที่เปิดยุทธการครั้งใหญ่
- ความสูงจากฐานถึงยอดอนุสรณ์สถาน 25 เมตร หมายถึงปี 2525 อันเป็นปีสิ้นสุดการต่อสู้ด้วยอาวุธ
-ความกว้างฐานสามเหลี่ยมด้านละ 2.6 เมตร หมายถึงปี 2526 อันเป็นปีเริ่มการก่อสร้างอนุสรณ์สถานผู้เสียสละแห่งนี้

อนุสรณ์ สถานแห่งนี้ พลเอก อาทิตย์ กำลังเอก ผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ทั่วไป ได้มาทำพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ วันที่ 17 กันยายน 2526 โดยสร้างขึ้นด้วยเงินบริจาค ของประชาชนและข้าราชการทุกฝ่าย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ได้เสด็จฯ มาเป็นองค์ประธานเปิดอนุสรณ์สถานแห่งนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2527 เพื่อเตือนใจคนไทยทั้งชาติว่า "ยามใดที่คนไทยขัดแย้งกัน จะต้องมีการสูญเสียอย่างผู้กล้าหาญ 1,171 ชีวิต ที่จารึกไว้กับองค์อนุสรณ์ จงอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก" ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กำหนดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา ให้เป็นวันสมโภช อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อแห่งนี้
นอก จากนี้บริเวณด้านข้างของอนุสรณ์ฯ เป็นฐานจำลองการสู้รบ ที่เป็นเนินเตี้ยๆ มีหลุมหลบภัย มีกระสอบทรายบังเกอร์ ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้เป็นฐานแห่งแรกที่ทหารไทยยึดคืนมาได้จากการสู้รบกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) นอกจากนี้ บริเวณอนุสรณ์สถาน ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ เนื่องจากตั้งอยู่บนส่วนที่สูงที่สุด สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเนินเขาลูกเล็ก ลูกน้อย ไล่เลียงกันเป็นทะเลภู แลในเช้าวันที่มีทะเลหมอกด้านล่าง ยังสามารถชมทะเลหมอกได้จากจุดชมวิวนี้ได้ด้วย
 

น้ำตกศรีดิษฐ์


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้ำตกศรีดิษฐ์
น้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ มีน้ำตกตลอดทั้งปี  นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อน รับประทานอาหาร ลงเล่นน้ำ และซื้อของที่ระลึกของชาวเขากลับบ้านได้ ที่น้ำตกนี้ เดิมเคยเป็นที่อยู่ของกลุ่ม ผกค. ซึ่งยังปรากฎหลักฐาน และสิ่งของเครื่องใช้หลายอย่างของกลุ่ม ผกค.ในบริเวณน้ำตก เช่นครกตำข้าวที่ ผกค. สร้างขึ้นโดยใช้พลังน้ำตกช่วยเคลื่อนกังหันตำข้าว เป็นต้น

นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเขาค้อ ต้องมาเที่ยวชม เนื่องจากเส้นทางต่อเนื่องกับการเที่ยวชมทัศนียภาพในกลุ่มแหล่งท่องเที่ยว เขาค้อ โดยการเดินทางใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2196 จากแยกแคมป์สนไปประมาณ 18 กิโลเมตร ถึงสามแยกตลาดพัฒนา เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2325 ไปทางอ่างเก็บน้ำรัตนัย อีกประมาณ 10 กิโลเมตร
บริเวณน้ำตกมีร้านค้าของที่ระลึกจากชาวเขา และร้านอาหารสำหรับนั่งทาน มากมายหลายร้าน เหมาะสำหรับเป็นที่พักผ่อนทานอาหารกลางวัน ก่อนเดินทางเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

่ภูทับเบิก





ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ ชมวิวทะเลภูเขาสถานที่ท่องเที่ยวน่าไปเยือน



รูปภาพที่เกี่ยวข้อง


 ภูทับเบิก เพชรบูรณ์ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศไทยน่าไปเยือน เพราะมีวิวทะเลภูเขาที่สวยงามชวนไปสัมผัส


           สายลมเย็น ๆ พัดเอื่อย ๆ ชวนให้นึกถึงภาพบรรยากาศทิวเขาสูงซับซ้อน ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา แหม ๆ ๆ ว่าแล้วเราก็นำพาตัวเองไปสัมผัสความรื่นรมย์ที่ว่ากันดีกว่า และสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่จะไปท่องเที่ยว ก็คือ "ภูทับเบิก" จังหวัดเพชรบูรณ์  นั่นแน่ ! อยากไปเที่ยวแล้วใช่มั้ย ตามเข้ามาเลยค่ะ... 
          ภูทับเบิก เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร ภูทับเบิก มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา มีอากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูงจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล โดยช่วงเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์    นอกจากนี้ ภูทับเบิก ยังเป็นสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือเป็นจุดรองรับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542) เพื่อนำไปรวมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542

          ปัจจุบัน ภูทับเบิก เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ซึ่งได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 และหมู่ที่ 16 โดยอยู่ในความดูแลของศูนย์พัฒนาสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยอาชีพทำการเกษตรแบบขั้นบันไดตามเชิงเขา ในช่วงปลายฝนต้นหนาว จะพบเห็นไร่กะหล่ำปลีอยู่สองข้างถนนสู่ทับเบิกสวยงาม ในราวเดือนธันวาคม-มกราคม จะมี ดอกซากุระ หรือ นางพญาเสือโคร่ง สีชมพูบานสะพรั่งไปทั้งภูเขา    นอกจากนี้ ในยามค่ำคืนยังมองเห็นแสงไฟระยิบระยับจากบ้านเรือนในอำเภอหล่มสัก ที่อยู่เบื้องล่าง เปรียบได้กับ"ดาวบนดิน" จากสภาพดังกล่าว ทำให้ภูทับเบิกเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นิยมสัมผัสบรรยากาศที่หนาวเย็น วิถีชีวิตชาวเขา และแหล่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ภายใต้คำกล่าวที่ว่า "นอนทับเบิก สัมผัสความหนาว ดูดาวบนดิน" โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณหมู่บ้านทับเบิกและจุดชมวิว มีบ้านพัก เต็นท์ และร้านอาหารเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยว